เมนู

ในบรรดาเครื่องใช้ต่าง ๆ เหล่านี้ คือ เตียง ตั่ง ฟูก หมอน
เครื่องลาดพื้น แปรงเช็ดเท้า ฟูกรองที่จงกรม ไม้กวาด กระเช้าเทหยากเยื่อ
รางย้อมผ้า กระบวยน้ำดื่ม หม้อน้ำดื่ม กระเบื้องเช็ดเท้า ตั่งกระดาน เชิงวลัย
เชิงรองไม้สะดึง ฝาบาตร ขั้วใบตาลแลพัดวีชนีจะมีลวดลายที่มีสีเกลี้ยงเกลา
มีลายดอกไม้เป็นต้นทั้งหมด ก็ควร.
ส่วนในเสนาสนะ ที่บานประตูและบานหน้าต่างเป็นต้น จะมีลวดลาย
ที่มีสีเกลี้ยงเกลาแม้ที่สำเร็จด้วยแก้วทั้งหมด ก็ควร. ในเสนาสนะไม่มีลวดลาย
อะไร ๆ ที่ควรห้ามไว้ เว้นแต่เสนาสนะที่ผิด.

[

เสนาสนะที่ผิดควรทำลายเสีย

]
เสนาสนะที่พวกภิกษุผู้เป็นราชพัลลภ สร้างไว้ในเขตของเจ้าของเขต
เหล่าอื่น เรียกชื่อว่า เสนาสนะที่ผิด. เพราะฉะนั้น พวกภิกษุผู้สร้างเสนาสนะ
เช่นนั้น อันภิกษุผู้เป็นเจ้าของเขตพึงตักเตือนว่า พวกท่านอย่าสร้างเสนาสนะ
ไว้ในเขตของพวกข้าพเจ้า ( ถ้า ) ไม่เชื่อฟังยังขืนสร้างอยู่นั่นเอง พึงตักเตือน
ซ้ำอีกว่าพวกท่านอย่าได้ทำอย่างนี้, อย่าได้ทำอันตรายแก่อุโบสถและปวารณา
ของข้าพเจ้า, อย่าได้ทำลายความสามัคคี เสนาสนะแม้ที่พวกท่านสร้างไว้
แล้ว จักไม่ตั้งอยู่ในสถานที่ ๆ พวกท่านสร้างไว้แล้ว ถ้ายังขืนสร้างอยู่โดย
พลการนั่นเอง, เวลาใด เจ้าของเขตเหล่านั้น มีลัชชีบริษัทหนาแน่นขึ้น ทั้ง
อาจได้คำวินิจฉัยที่ชอบธรรม, เวลานั้น ควรส่งข่าวแก่ภิกษุนั้นว่า จง
ขนเอาที่อยู่ของพวกท่านไปเถิด ถ้าเมื่อส่งข่าวไปถึง 3 ครั้งแล้ว เธอเหล่านั้น
รื้อถอนไป ข้อนั้นเป็นการดี, ถ้ายังไม่รื้อถอนไปไซร้, เสนาสนะที่เหลือควร
ทำลายเสีย ยกไว้แต่ต้นโพธิ และเจดีย์, และอย่าทำลายให้เป็นของที่ใช้การ
ไม่ได้. อนึ่ง ควรนำวัตถุต่าง ๆ มีเครื่องมุงหลังคา กลอนเรือนและอิฐเป็นต้น

ออกไปตามลำดับ แล้วควรส่งข่าวแก่เธอเหล่านั้นว่า จงขนทัพสัมภาระของ
พวกท่านไปเถิด. ถ้ารื้อขนไปไซร้, ข้อนั้นเป็นการดี, ถ้ายังไม่รื้อขนไปไซร้,
หากว่าเมื่อสัมภาระเหล่านั้นผุพังไป เพราะหิมะ ฝนและแดดเผาเป็นต้นก็ดี
พวกโจรลักเอาไปก็ดี ถูกไฟไหม้ก็ดี พวกภิกษุผู้เป็นเจ้าของเขต ใคร ๆ จะ
กล่าวโทษไม่ได้ ทั้งไม่ได้เพื่อจะทักท้วงว่า พวกท่านทำให้ทัพสัมภาระของ
พวกข้าพเจ้าฉิบหายแล้ว หรือว่า ต้องปรับสินไหมพวกท่าน ดังนี้. ก็กิจใด
ที่ภิกษุผู้เป็นเจ้าของเขตทำแล้ว กิจนั้นเป็นอันพวกเธอทำชอบแล้วทีเดียว
ฉะนั้นแล.
จบบาลีมุตตกวินิจฉัย

พระธนิยะเริ่มสร้างกุฎีไม้


ก็เพื่อแสดงถึงความรำพึงและความอุตสาหะ เพื่อสร้างกุฎีอีกนั่นแล
ของพระธนิยะ ในเมื่อกุฎีถูกทำลายแล้วอย่างนั้น พระธรรมสังคาหกาจารย์
จึงได้กล่าวคำว่า อถโข อายสฺมโต เป็นต้น.
ในคำว่า อายสฺมโต เป็นต้นนั้น มีวินิจฉัยดังนี้ :-
บทว่า ทารุคเหคณโก ได้แก่ เจ้าพนักงานผู้รักษาไม้ในเรือนคลัง
ไม้ของหลวง.
บทว่า คหณทารูนิ* ได้แก่ ไม้ที่นายหลวงทรงจับจองไว้ อธิบายว่า
ไม้ที่พระราชาทรงสงวนไว้.
บทว่า นครปฏิสงฺขาริกานิ ได้แก่ ไม้เป็นเครื่องอุปกรณ์ การ
ปฏิสังขรณ์ พระนคร.
สองบทว่า อาปทตฺถาย นิกฺขิตฺตานิ มีคำอธิบายว่า ได้แก่ไม้ที่
เก็บไว้เพื่อป้องกันความวิบัติแห่งวัตถุทั้งหลายมีซุ้มประตู ป้อมพระราชวังหลวง
และโรงช้างเป็นต้น เพราะถูกไฟไหม้ เพราะความเก่าแก่ หรือเพราะการ
รุกรานของพระราชาผู้เป็นข้าศึกเป็นต้น ที่ท่านเรียกว่าอันตราย.
สองบทว่า ขณฺฑาขณฺฑิกํ เฉทาเปตฺวา ความว่า พระธนิยะ
กำหนดประมาณกุฎีของตนแล้ว สั่งให้ทำการตัดไม้บางต้นที่ปลาย บางต้นที่
ตรงกลาง บางต้นที่โคน ให้เป็นท่อนน้อยท่อนใหญ่ ( บรรทุกเกวียนไปสร้าง
กุฎีไม้แล้ว ).
//* บาลีเดิมเป็น เทวคหณทารูนิ.